เมืองเชลียงยังคงเหลือสิ่งก่อสร้างที่น่าเยี่ยมชมหลายแห่งเช่นบริเวณที่อยู่ปลาย
คุ้งน้ำคือ  วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียง  ถัดมาเป็นวัดชมชื่น วัดเจ้าจันทร์และ
วัดน้อยจำปี   ซึ่งสร้างด้วยศิลาแลง  ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสถาปัตยกรรมแบบ
ศิลปเขมรในพุทธศตวรรษที่ 18


เมืองนี้พัฒนาต่อมาด้วยการขยายอาณาบริเวณสร้างเป็นเมืองใหม่   ในบริเวณ
ใกล้แก่งหลวง   คือ เมืองศรีสัชนาลัยนั่นเอง  ชื่อ "ศรีสัชนาลัย" นี้มาจากชื่อ
"ฤาษีสัชนาลัย"ซึ่งพงศาวดารเหนือกล่าวว่าเป็นผู้แนะนำให้บาธรรมราชสร้าง
เมืองนี้ขึ้น   โดยให้ใช้เขาพนมเพลิงที่อยู่ภายในเมืองเพื่อเป็นศาสนสถาน
สำหรับการบูชาไฟ   ศิลาจารึกสมัยสุโขทัยกล่าวถึงเมืองศรีสัชนาลัยว่าเป็นเมือง
คู่กับสุโขทัยโดยเรียกรวมๆ กันว่า  "ศรีสัชนาลัยสุโขทัย" ดังนั้นจึงเป็นเมือง
สำคัญประหนึ่งเมืองหลวงของอาณาจักรคู่กับเมืองสุโขทัย

ในต้นพุทธศตวรรษที่ 19   ศรีสัชนาลัยได้ถูกลดฐานะลงเป็นเมืองลูกหลวงมีโอรสกษัตริย์ปกครอง  ในพุทธศตวรรษที่ 20 กรุงสุโขทัยตกอยู่ใต้
อำนาจการปกครองของกรุงศรีอยุธยา  ซื่อศรีสัชนาลัยไม่ปรากฏในพงศาวดารของอยุธยา   มีแต่ชื่อ เมืองเชลียง บอกในฐานะเป็นเมืองพญา
มหานคร  และต่อมาปรากฏชื่อ "เมืองสวรรคโลก" ในปี พ.ศ.2099  เรียกกันต่อมาตลอดสมัยอยุธยา

ในการศึกสงครามระหว่างกรุงศรีอยุธยา ล้านนา และพม่า   ศรีสัชนาลัยเป็นเมืองที่อยู่ระหว่างเส้นทางเดินทัพของคู่สงคราม   บางครั้งผู้คนอพยพหนี
ภัยสงครามทิ้งเมืองให้ร้าง   บางครั้งผู้ครองเมืองกระด้างกระเดื่องทำให้ เกิดการสู้รบปราบปรามเช่น  ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  (พ.ศ.2127) 
เจ้าเมืองศรีสัชนาลัยแข็งเมือง   พระนเรศวรทรงยกทัพหักเอาเมืองไว้ได้   แล้วอพยพผู้คนไปยังเมืองพิษณุโลกปล่อยเมืองนี้ให้ร้าง   ครั้นเมื่อสงคราม
เสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่าใน พ.ศ.2310  เมืองศรีสัชนาลัยถูกทิ้งล้างเช่นเดียวกับอีกหลายเมือง   จนถึงรัชสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช   
เมื่อทรงมีชัยชนะต่อศึกพม่าในปี พ.ศ.2328 ทรงเห็นว่า เมืองสวรรคโลกซึ่งตั้งอยู่ที่ศรีสัชนาลัยทรุดโทรมมาก  จึงโปรดให้ตั้งเมืองใหม่ที่ตำบลวังไม้ขอน
ซึ่งก็คืออำเภอสวรรคโลกปัจจุบัน   ส่วนอำเภอศรีสัชนาลัยตั้งอยู่ที่บ้านหาดเสี้ยว

เมื่อออกจากตัวเมืองศรีสัชนาลัยหรือขึ้นไปบนยอดเขาสุวรรณคีรี  จะมองเห็นศาสนสถาน
อีกมากมายกระจายอยู่ตามแนวเขาทางด้านตะวันตก ล้วนเป็นสิ่งก่อสร้างต่างๆของวัด
อรัญวาสีฝ่ายวิปัสสนาธุระ  ซึ่งต่างจากวัดภายในตัวเมืองที่เป็นฝ่ายคามวาสี หรือคันถธุระ

วัดวาอารามทั้งในและนอกเมืองเหล่านี้   แสดงให้เห็นถึงลักษณะสถาปัตยกรรมศิลปกรรม
แบบพุทธศาสนาลัทธิหินยาน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เรียกกันว่าลังกาวงศ์อันเป็นศาสนา
ประจำแคว้นสุโขทัยและสืบเนื่องต่อมาตลอดสมัยอยุธยา

พุทธศิลป์ในศรีสัชนาลัยยังแสดงให้เห็นการผสมผสานคตินิยมท้องถิ่นกับคตินิยมของ
ชุมชนทางตอนเหนือ (ล้านนา)  และตอนใต้    ตัวอย่างพุทธสถานที่ควรเป็นที่กล่าวขวัญ
ถึง คือ วัดเจดีย์เจ็ดแถว ซึ่งนับว่าเป็นแหล่งรวมสถูป  เจดีย์ ลักษณะต่างๆ  ไว้มากที่สุด

ศรีสัชนาลัยเป็นแหล่งที่มีสิ่งก่อสร้างสมัยสุโขทัยและอยุธยาแห่งหนึ่งในบรรดาไม่กี่แห่งของประเทศที่ยังเหลือให้เห็นมากพอที่จะจินตนาการ
ถึงความรุ่งเรืองในอดีตที่บรรพชนไทยได้สร้างสมไว้


                                                        Information  of  Sukhothai  Thailand  2000  Copyright. All right. Reserved
                                                                            Create by : Surat Khewnga  ICQ:86559423


Term Life Insurance - Compare free, no-obligation quotes